วิ่งลดความอ้วน วิ่งช้าหรือวิ่งเร็วแบบไหนลดน้ำหนักดีกว่ากัน

การวิ่งกับการลดน้ำหนักนั้นจัดเป็นของคู่กันอยู่แล้ว นึกไม่ออกว่าจะออกกำลังกายแบบไหน ก็มักจะนึกถึงการวิ่งลดอ้วนเป็นอันดับต้นๆ ก็การวิ่งนั้นทำได้ง่ายไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมแต่อย่างใด ขอแค่มีเวลาสัก 30 นาทีกับใจที่อยากออกกำลังกายเท่านั้น ก็สามารถที่จะ exercise ลดหุ่นได้ไม่ยาก

แล้วทีนี้การวิ่งนั้นเราควรจะวิ่งจ็อกกิ้งแบบช้าๆ หรือว่าควรวิ่งสปีดแบบเร็วๆถึงจะช่วยให้ลดความอ้วนได้ดีกว่ากันก็ยังเป็นประเด็นโต้เถียงกันอยู่ บางคนก็บอกว่าการวิ่งอย่างช้าๆจะเป็นการเผาผลาญไขมันได้ดีกว่า ส่วนการวิ่งแบบเร็วจะเน้นเผาผลาญพลังงานที่ไกลโคเจนช่วยในเรื่องความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมากกว่า ซึ่งจริงๆแล้วก็ถูกต้องแต่ถูกแค่ครึ่งเดียว ความจริงแล้วไม่ว่าจะวิ่งช้าหรือวิ่งเร็ว ร่างกายก็จะทำการเผาผลาญพลังงานจากทั้ง 2 แหล่งก็คือ ทั้งไกลโคเจนและไขมันไปพร้อมกันๆ เมื่อเป็นอย่างนั้นการวิ่งเร็วก็น่าจะช่วยเร่งให้การเผาผลาญไขมันมากขึ้นกว่าการวิ่งแบบธรรมดา เพราะมีการใช้พลังงานมากกว่า และใช้เวลาน้อยกว่า ซึ่งจะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้มากกว่าด้วย มีข้อดีก็ต้องมีข้อควรระวังมาดูกันดีกว่ามีอะไรที่เป็นจุดเด่น และข้อควรระวังของการวิ่งเร็วกันบ้าง

ข้อดีของการวิ่งเร็ว

• ช่วยเผาผลาญพลังงานได้รวดเร็ว การวิ่งเร็วนั้นใช้พลังงานมากกว่าในเวลาที่น้อยกว่าการวิ่งแบบช้า ซึ่งจะช่วยเผาผลาญพลังงานจากไกลโคเจนที่สะสมไว้ก่อน จากนั้นก็ไปเผาผลาญพลังงานจากไขมันตามส่วนต่างๆของร่างกายต่อ ทำให้พลังงานและไขมันลดลงไปอย่างรวดเร็ว
• วิ่งเสร็จแล้วก็ยังเผาผลาญพลังงานต่อ ในระหว่างที่เราวิ่งพลังงานและไขมันของเราก็จะถูกเผาผลาญตามปกติอยู่แล้ว แต่การวิ่งแบบเร็วเมื่อการวิ่งของเราสิ้นสุดแล้ว การเผาผลาญยังไม่สิ้นสุด ร่างกายจะมีการเผาผลาญพลังงานต่อไปอีกอย่างน้อย 14 ชั่วโมง หรือคิดเป็น % ก็จะเผาผลาญพลังงานมากขึ้นอีก 37% ซึ่งสามารถสังเกตได้จากเวลาที่เราวิ่งเสร็จแล้วเราจะรู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลียอยู่นานกว่าร่างกายจะฟื้นกลับมาเป็นเหมือนเดิม
• ช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆกระชับมากขึ้น การวิ่งเร็วนั้นจะทำให้อวัยวะส่วนต่างๆมีความกระชับ ดูเป็นสัดเป็นส่วนมากกว่าการวิ่งจ็อกกิ้งแบบทั่วไป เพราะการวิ่งอย่างเร็วนั้นต้องใช้กล้ามเนื้อต่างๆมากกว่าปกติ ทำให้กล้ามเนื้อในส่วนนั้นๆมีความแข็งแรงมากขึ้น พุงก็จะลดลง ขาก็จะเรียว แขนก็จะไม่ห้อยไม่ย้อยดูสมส่วนมากขึ้น

ข้อควรพิจารณาของการวิ่งเร็วลดอ้วน

• อาจเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย แน่นอนครับการวิ่งเร็วนั้นมีการใช้กล้ามเนื้อและข้อต่อในการเคลื่อนไหวมากกว่าปกติ จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดหากเรามีร่างกายที่พร้อมสำหรับการวิ่งเร็ว
• อาจไม่เหมาะกับคนที่อ้วนมากๆ เพราะคนที่มีน้ำหนักมากๆนั้นจะมีกล้ามเนื้อและข้อต่อที่ไม่แข็งแรง ซึ่งไม่สามารถรองรับการออกกำลังกายด้วยการวิ่งเร็วได้ หากฝืนไปก็อาจจะทำให้บาดเจ็บได้ง่ายๆ
• คนที่มีปัญหาเรื่องข้ออักเสบต่างๆควรหลีกเลี่ยงการวิ่งแบบเร็ว

แนะนำขั้นตอนการวิ่งแบบเร็วเพื่อลดความอ้วนอย่างได้ผล

1. เริ่มจากการ warm up ยืดเส้นยืดสายกันก่อนเพื่อให้กล้ามเนื้อยืดตัว เวลาวิ่งจะได้ไม่เกิดการบาดเจ็บ
2. เริ่มจากการวิ่งจ็อกกิ้งเบาๆก่อนสัก 15-20 นาที เพื่อให้ร่างกายเตรียมพร้อมที่จะวิ่งอย่างเร็ว
3. จากนั้นให้วิ่งสปีดเร็วหรือเรียกว่าการวิ่งสปริ้น 30 วินาทีออกแรงสักประมาณ 75% จากนั้นก็กลับมาวิ่งจ็อกกิ้งแบบธรรมดา 2 นาที
4. ทำแบบข้อ 3 ไปประมาณ 10 ครั้ง วิ่งสลับช้าเร็วไปเลย 10 เที่ยว(ไขมันไม่หมดให้มันรู้ไป)
5. สุดท้ายก็ทำการ Cool down เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการบาดเจ็บและอาการปวดเมื่อยของร่างกาย

      การวิ่งอย่างเร็วนั้นเป็นวิธีที่ช่วยลดความอ้วนได้ผลดีมากอีกวิธีหนึ่ง ภายใน 1 เดือนอาจลดได้ถึง 3-4 กิโลเลยก็ได้ แต่ต้องวิ่งให้ถูกวิธีด้วยคือวิ่งโดยใช้เวลาอย่างน้อย 45 นาทีขึ้นไปเพื่อให้เกิดการเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ควรวิ่งแบบนี้ทุกวัน อาทิตย์หนึ่งวิ่งสัก 3 วันหรือใครฟิตหน่อยก็วิ่งวันเว้นวันก็ได้ วันไหนที่ไม่ได้วิ่งก็ให้ออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเล่นเวท โยคะ แอโรบิค และที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอด้วย หากวันไหนรู้สึกล้าจนเกินไปก็ควรหยุดวิ่งก่อน เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเองเตรียมความพร้อมก่อนการวิ่งครั้งต่อไป หากทำได้อย่างที่บอกน้ำหนักจะลดลงอย่างน่าตกใจเลยล่ะ ขอเพียงมีใจมุ่งมั่นตั้งใจทุกคนก็มีหุ่นผอมเพรียวได้ไม่ยาก