วิธีลดน้ำหนักที่ง่ายและได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อวิธีหนึ่งก็คือ "การเดินลดความอ้วน" นั่นเอง ถึงแม้การเดินอาจดูเหมือนไม่น่าจะช่วยให้น้ำหนักตัวเราลดลงได้ แต่ถ้าใครไม่เคยลองย่อมไม่รู้ถึงศักยภาพของมัน วิธีการเดินที่ถูกต้องสามารถช่วยให้น้ำหนักตัวเราลดลงได้อย่างรวดเร็วไม่น่าเชื่อ ลดลงเดือนละ 4-5 กิโลนี่เป็นไปได้แน่นอน ก่อนอื่นเรามาดูข้อดีของการเดินลดน้ำหนักกันก่อนดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
ข้อดีของการเดินลดน้ำหนัก
- เกิดอาการบาดเจ็บได้น้อยมาก การเดินลดน้ำหนักเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ค่อนข้างเบา ไม่ต้องออกแรงหรือขยับร่างกายมากนัก ทำให้เกิดการบาดเจ็บตามอวัยวะต่างๆได้น้อยกว่าการออกกำลังแบบอื่น
- ช่วยให้ข้อต่อยืดหยุ่นมากขึ้น การเดินเป็นการบริหารข้อต่อชั้นดี ทำให้ข้อต่อเราเกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น จึงเป็นการบริหารร่างกายที่เหมาะกับผู้สูงอายุที่มักมีปัญหาสุขภาพในเรื่องนี้ นอกจากนี้การเดินลดน้ำหนักก็ยังเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยอีกด้วย
- เดินที่ไหนก็ได้ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ จะเดินในหมู่บ้าน สวนสาธารณะ เดินไปจ่ายตลาด หรือเดินไปรับลูกที่โรงเรียน ก็สามารถเอาวิธีการเดินออกกำลังกายไปใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา
วิธีการเดินลดน้ำหนักที่ถูกต้อง
- เดินลงส้นเท้าก่อน แล้วค่อยทิ้งน้ำหนักไปข้างหน้า
- ศรีษะและลำตัวตรง ตามองไปข้างหน้า 4-5 เมตร คางอยู่ในแนวขนานพื้น หลีกเลี่ยงการเดินก้มหน้าไม่โน้มตัวไปข้างหน้า หรือเอนไปข้างหลัง เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อหลังตึง ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดหลัง
- ขณะเดินไม่เกร็งหรือห่อไหล่ และให้แขม่วท้องเล็กน้อย
- งอข้อศอกประมาณ 90 องศา และกำมือหลวมๆ
- แกว่งแขนขาสลับกัน จะช่วยเพิ่มการทรงตัวและความเร็วในการเดิน แต่ไม่ควรแกว่งแขนแรงเกินไป เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังและไหล่บาดเจ็บได้
- เมื่อต้องก้าวเดินเร็วขึ้นต้องก้าวเท้าถี่ขึ้น แต่ไม่ควรก้าวเท้าเร็วเกินไป เพราะอาจทำให้บาดเจ็บบริเวณสะโพกและขาได้
- สวมรองเท้าที่มีพื้นหนา ยืดหยุ่นได้ดี เพื่อช่วยรองรับเท้าและลดแรงกระแทกได้ดี
- สวมใสเสื้อผ้าที่ทำให้รู้สึกแห้ง สบายตัว เหมาะสมกับสภาพอากาศ
- หากเดินนานกว่า 30 นาทีขึ้นไป ควรพกน้ำไปด้วย จะได้จิบทีละน้อยเพื่อป้องกันการกระหายน้ำ และลดภาวะร่างกายขาดน้ำ
แบ่งการเดินลดน้ำหนักออกเป็น 3 ช่วง
1. ช่วงอบอุ่นร่างกาย
ให้เดินช้าๆ 5 นาที เพื่อเป็นการยืดกล้ามเนื่อให้กล้ามเนื้อได้เตรียมตัวสำหรับการเดินลดน้ำหนักในช่วงต่อไป
2. ช่วงเดินเร็ว
ในสัปดาห์แรกเดินเร็วประมาณ 5 นาที และสัปดาห์ต่อไปให้เพิ่มช่วงเดินเร็วอีก 2-3 นาที จนถึงเป้าหมายที่เราวางเอาไว้
3. ช่วงผ่อนหยุด
ก่อนจะหยุดให้ลดความเร็วลงอย่างช้าๆประมาณ 3-5 นาที แล้วตามด้วยการเดินยืดกล้ามเนื้อเหมือนในข้อ 1 อีกครั้ง เพื่อลดอาการปวดเมื่อยให้เลือดไหลเวียนได้ดี
การเดินลดน้ำหนักเป็นการออกกำลังกายง่ายๆที่น่าสนใจเอามากๆ อย่าคิดว่าเดินเฉยๆจะไม่เหนื่อยนะครับ ลองเดินดูก่อนแล้วจะรู้ว่าเหนื่อยโฮกกันเลยทีเดียว แต่ถ้าเดินอย่างเดียวโดยไม่ควบคุมเรื่องอาหารไปด้วย น้ำหนักตัวของเราก็คงจะลงช้าหรืออาจจะไม่ลงเลยถ้าเรายังกินแบบไม่ยั้งอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าอยากลดความอ้วนได้เร็วๆทำ 2 อย่างนี้ควบคู่กันไปด้วยจะดีมาก รับรองว่าเราจะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างที่ตั้งใจไว้แน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น